การดูแลรักษา “กล้องวงจรปิด” และ”เครื่องบันทึกDVR” ให้ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานเดี่ยวนี้เครื่องบันทึกและกล้องวงจรปิดในปัจจุบันมีราคาค่อนข้างถูกกว่าแต่ก่อนเยอะที่เดียว ซึ่งส่งผลทำให้ผู้คนหาซื้อมาใช้งานกันมากขึ้นเพื่อสำหรับเอาไว้ป้องกันเฝ้าระวังภัยต่างๆ ที่คาดไม่ถึง เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ “เปรียบเสมือนมียามคอยเฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมง” ติดตั้งเพียงครั้งเดียวสามารถใช้งานได้ยาวนานนับปีกันเลยทีเดียว เมื่อพูดถึงการใช้งานกล้องวงจรปิดนั้น คนส่วนใหญ่คิดว่า การติดตั้งในครั้งแรกเมื่อใช้งานได้ปกติแล้ว ก็ไม่ต้องคอยมาดูแลรักษาอะไรมากมาย เพราะกล้องวงจรปิดก็ทำหน้าที่ของมันเอง ในการบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ในแต่ละวัน ซึ่งจริงๆ แล้วนั้น อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดต้องมีการหมั่นดูแลรักษา หรือตรวจสอบสภาพการใช้งานว่ายังทำงานเป็นปกติหรือไม่อยู่เสมอ ยกตัวอย่าง มีกรณีหนึ่งเกี่ยวกับเครื่องบันทึก ที่ยังคงทำหน้าที่การบันทึกภาพอยู่ตลอด ซึ่งก็ไม่ได้ผิดปกติอะไร แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดได้เกิดขึ้น เช่น ขโมยขึ้นบ้าน ลูกสุนัขในบ้านถูกวางยา เป็นต้น คือจุดเริ่มต้นที่เราจะต้องกลับไปดูที่เครื่องบันทึกกล้องวงจรปิด เพื่อจะย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เมื่อจะกลับมาดูภาพบันทึกในวันที่เกิดเหตุนั้นไม่สามารถดูได้ เพราะว่าเครื่องบันทึกไม่ได้ทำการบันทึกเอาไว้ “เพราะแหล่งจัดเก็บข้อมูล ( Hard Disk) ไม่ทำงาน (เสีย)” และไม่บันทึกภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น สาเหตุนี้สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ฟ้าผ่า ฟ้าลง ทำให้ตัวเครื่องดับ ขณะเปิดใช้งานอยู่ ก็ส่งผลทำให้ Hard Disk ที่กำลังบันทึกข้อมูลอยู่ เกิดการหยุดกะทันหัน ซึงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เสียและไม่สามารถบันทึกภาพลงไปได้ และอายุการใช้งานของ Hard Disk ก็จะสั้นลงไปด้วย เราจะสามารถเช็คได้อย่างไรว่าเครื่องยังทำหน้าที่การบันทึกจัดเก็บภาพต่างๆ ลงในแหล่งจัดเก็บข้อมูลได้ปกติอยู่ วิธีการสังเกตถ้าเป็นเครื่องของ KARE สามารถเช็คได้ง่ายๆ คือดูที่หน้าเครื่อง DVR ว่ามีไฟติดหรือไม่ดังรูปต่อไปนี้ 1. ไฟกระพริบที่ HDD แสดงว่า Hard disk สามารถทำงานได้ปรกติ หรือให้ทดสอบเปิดดูย้อนหลังก็ได้ – ให้หมั่นตรวจสอบภาพย้อนหลังบ่อยๆ อย่างน้อย อาทิตย์ละครั้ง จะได้ดูว่าเครื่องเรายังทำงานเป็นปรกติอยู่ |