อุบัติเหตุบนท้องถนนมีมากมาย และหลายๆครั้งมักหาผู้กระทำความผิดไม่ได้ ยิ่งส่งผลให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจยังไม่พอ แต่ยังต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเองอีกด้วย แต่เมื่อเทคโนโลยีต่างๆมีความทันสมัยมากขึ้น มีการผลิตทั้งกล้องวงจรปิดแบบปกติ และกล้องวงจรปิด CCTV เพื่อนำมาใช้งานบนท้องถนนมากขึ้น ทำให้ประชาชนผู้ใช้ถนนได้รับความมั่นใจและความสะดวกในการขับขี่ยานพาหนะมากมาย
กล้องวงจรปิด CCTV มีการนำมาใช้งานกับองค์กรอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะกรมทางหลวงและสำนักงานตำรวจซึ่งเป็นที่คุ้นหูกันอยุ่บ่อยๆนั่นเอง โดยกล้องที่นำมาติดตั้งนี้จะมีจุดศูนย์กลางที่คอยมอนิเตอร์ดูภาพอยู่ตลอดเวลา เพื่อคอยเฝ้าระวังความปลอดภัยของบุคคลและสถานที่ ซึ่งมีข้อดีกับผู้ใช้ถนน ดังนี้
- รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงเกินกำหนด เมื่อกล้องวงจรปิดจับภาพได้ ระบบจะสั่งงานไปยังศูนย์ควบคุม เพื่อตรวจสอบรถคันนั้น เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายกับผู้ใช้ถนนนั่นเอง
- แม้ว่ารถส่วนใหญ่จะติดตั้งกล้องในรถยนต์ แต่รถบางคันที่เกิดอุบัติเหตุอาจไม่ได้ติดตั้งกล้องขนิดนี้ จึงต้องพึงพาตัวช่วยอย่างกล้องวงจรปิด CCTV เพื่อหาหลักฐานของรถคนร้าย โดยปัจจุบันได้มีการเพิ่มฟังค์ชั่นลดความสว่างจากแสงไฟหน้ารถที่ส่องมายังกล้อง เพื่อให้จับภาพป้ายทะเบียนได้ง่ายขึ้น และยังพัฒนาภาพจากกล้องให้สามารถเก็บความคมชัดให้มากขึ้น เพื่อประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน โดยนำเอาเทคโนโลยี CatchAll มาใช้เพื่อเก็บภาพป้ายทะเบียนได้อย่างชัดเจน แม้รถจะวิ่งด้วยความเร็วสูง อีกทั้งยังใช้ได้ทุกสภาวะแสงและทุกสภาพอากาศอีกด้วย
- สามารถตรวจสอบการจราจรได้ตลอดเวลาผ่านระบบออนไลน์จากโทรศัพท์มือถือหรือเครื่องคอมพิวเตอร์ จากเว็บไซต์ https://maintenance.doh.go.th/ems/ เพราะกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ทั่วประเทศและมีการพัฒนาผ่านระบบเครือข่าย ซึ่งส่งผลให้ผู้ที่ต้องการเดินทางสามารถตรวจสอบเส้นทางการจราจรเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด และสามารถบริหารเวลาจากการเดินทางได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วย
เทคโนโลยีทุกวันนี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับกับความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งถ้าเราใช้เทคโนโลยีอย่างถูกวิธีรับรองว่าคุณค่าของมันจะทำให้ชีวิตการเดินทางของคุณสะดวกสบายมากกว่าเดิมแน่นอนครับ ขอบคุณภาพจาก th.wikipedia.org |