ข้อแนะนำในเลือกซื้อกล้องวงจรปิด

ข้อแนะนำในเลือกซื้อกล้องวงจรปิด

1.ความละเอียดของภาพ กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกได้สูงสุดที่เท่าไร อย่างเช่นกล้องบันทึกภาพได้ที่ 1080P,960P,720P หรืออาจจะเรียกว่า TVL(600TVL,700TVL,1000TVL) กล้องที่มีความละเอียดสูงๆส่วนมากก็มักจะมีราคาที่แพงขึ้นตามไปด้วย

2.ใช้ภายนอกหรือภายใน กล้องวงจรปิดมีทั้งแบบใช้สำหรับติดตั้งภายในและสำหรับติดตั้งภายนอก ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการเอากล้องไปในพื้นที่ตรงไหนบ้าง เช่น กล้องโดมสำหรับติดภายในบ้าน (Indoor) ก็จะทำให้ดูสวยงามขึ้นเก็บสายกล้องได้สวย ติดตามฝ้าได้สะดวก ส่วนกล้องภายนอก (Outdoor)ใช้สำหรับติดตามระเบียงชายคาบ้านหรือ ที่พบเห็นตามเสาไฟฟ้า หรือโกดังโรงงาน เพราะได้มีการออกแบบเพื่อให้สามารถป้องกันน้ำเข้าตัวอุปกรณ์ของกล้องได้

3.ระยะของอินฟาเรด สำหรับระยะอินฟาเรดเมื่อต้องการบันทึกภาพในเวลาตอนกลางคืนถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างนึงที่ต้องเลือกมาใช้งาน อย่างเช่น ซื้อกล้องมาติดบ้านภายในก็อาจจะ เป็นกล้องโดมระยะอินฟาเรดที่สามารถส่องถึงได้ก็ควรจะอยู่สักระยะ 10 – 15 เมตร ส่วนกล้องที่จะใช้ติดภายนอกบ้านตามระเบียงบ้าน 2 ชั้นเพื่อส่องลงมาดู บริเวณข้างบ้านตอนกลางคืนก็ควรเลือกระยะอินฟาเรดสักระยะ 20-25 เมตร (เผื่อแนวทะแยงที่กล้องส่องไปด้วย) ส่วนระยะอินฟาเรดที่เอาไปใช้ติดตามโรงงานหรือ โกดังสินค้าที่มีความสูง 10 เมตร ขึ้นไปก็ให้เพิ่มระยะอินฟาเรดเป็น 25-30 เมตร เป็นต้น ปัญหาที่มักพบบ่อยคือบางคนเลือกซื้อกล้องที่ระยะอินฟาเรดระยะสั้นไปใช้ กับพื้นที่สูงแล้วพอถึงช่วงเวลากลางคืนอินฟาเรดก็ส่องไปไม่ถึงจึงทำให้เกิดภาพมัวๆ ขาวๆ เนื่องจากอินฟาเรดส่องไม่ถึง กล้องที่ระยะอินฟาเรดสามารถส่องได้ระยะ ไกลๆก็มักจะมีราคาที่แพงขึ้นตามไปด้วย

4.การรับประกัน หลังจากที่เราได้ซื้อกล้องมาแล้ว อนาคตเราก็ไม่แน่ว่ากล้องจะเสียตอนไหนหรือฝนอาจจะตกไฟกระชาก ทำให้กล้องเสีย กล้องวงจรปิดแต่ละค่ายก็จะมีระยะเวลาการ รับประกันที่ต่างกันออกไป เช่น KARE จะรับประกัน 1 ปี  เราก็จะสบายใจขึ้นเวลาที่กล้องวงจรปิดเสีย ก็สามารถส่งกล้องเคลมได้

5.การเลือกเครื่องบันทึก เราก็เลือกเอาตามจำนวนของกล้องวงจรปิด ส่วนมากเครื่องจะผลิตออกมาเป็น 4CH,8CH,16CH,32CH เป็นต้น การที่จะเลือกเครื่องบันทึก เราก็ต้องมาดูว่าใช้กล้องเทคโนโลยีของอะไร TVI,AHD,CVI หรือกล้อง Analog ธรรมดา เนื่องจากเทคโนโลยีต่างก็จะต่อกล้องกับเครื่องบันทึกไม่ติด ภาพไม่ขึ้น เช่น ซื้อกล้อง AHD ก็ควรจะเป็นเครื่องบันทึก DVR AHD เพื่อให้รองรับกับกล้องได้ ข้อดีของ DVR รุ่นใหม่ๆ สามารถต่อพ่วงกับกล้องวงจรปิดรุ่นเก่าๆ ที่เป็นกล้องอนาล็อคธรรมดามาใช้ด้วยกันได้ แต่ DVR รุ่นเก่าไม่สามารถรองรับกับกล้อง HD รุ่นใหม่ได้

6.ฮาร์ดดิสที่ใช้ ความจุในการบันทึกกล้องก็ขึ้นอยู่กับความละเอียดของกล้องด้วยว่า ถ้ากล้องที่มีความละเอียดสูง และต้องการให้บันทึก ได้นานขึ้นก็ต้องเพิ่มฮาร์ดดิสให้มีความจุมากขึ้น ตัวอย่างเช่น กล้อง 1080p จำนวน 8 กล้อง บันทึกตลอดเวลา ต้องการให้อยู่ได้นานสัก 14 วันก็ อาจจะใส่ฮาร์ดดิส 2-3TB เป็นต้น

7.การดูกล้องวงจรปิดออนไลน์ผ่านคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน การเลือกซื้อกล้องวงจรปิดซักชุดเราควรนึกถึงเรื่องดูออนไลน์ไว้ด้วย เผื่อในกรณีที่เราไม่อยู่บ้านหรือไว้คอยดูคนในบ้าน เพราะบางยี่ห้อการจะดูออนไลน์ได้นั้นต้องเสียเงินค่าบริการเป็นรายเดือน แต่ของ KARE สามารถดูได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

8.ความทนทานของกล้องวงจรปิด กล้องที่ได้มาตรฐานจะระบุความสามารถในการป้องกันฝุ่นละออง หรือน้ำ ด้วยเลข IP  (Index of Protection) โดยที่ตัวเลขตัวแรกจะระบุความสามารถในการป้องกันฝุ่นละออง  ตัวเลขตัวที่สองบอกความสามารถในการกันน้ำ     ค่าตัวเลขดังกล่าว ยิ่งมากยิ่งดี กล้องที่ติดตั้งภายนอกได้ควรจะมีค่า IP อย่างน้อยเท่ากับ  IP 66 คือ สามารถกันน้ำจากการฉีดด้วยแรงดันในทิศทางต่าง ๆ ได้

9.เลนส์ของกล้องวงจรปิด อาจกล่าวได้ว่า ตัวเลขยิ่งน้อย จะทำให้เราเห็นภาพกว้างมากขึ้น เช่น 2.8 mm. 3.6 mm  เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ที่ไม่กว้างมากนัก (คล้าย ๆ กับการ zoom out ในกล้องถ่ายรูป) ตัวเลขยิ่งมาก  เช่น เลนส์ 6 mm. 8 mm. หรือ 12  mm. ก็จะเหมือนกับการ zoom in เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ ที่ระยะทางระหว่างกล้องกับภาพที่ต้องการอยู่ไกลกัน